วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2550

กรณีศึกษา

1. ท่านคิดว่า RFID มีข้อได้เปรียบกว่าบาร์โค้ดอย่างไรบ้าง
- การนำเทคโนโลยี RFID ซึ่งก็คือการระบุลักษณะของวัตถุด้วยคลื่นความถี่วิทยุมาใช้ในอุตสาหกรรมยา ทำให้ได้รับความสะดวกสบายทางด้านการตรวจสอบข้อมูลของยา มีชื่อบริษัทผู้ผลิตและวันผลิตยาเพื่อตรวจสอบได้ว่ายานั้นได้สั่งซื้อมาจากที่ใด และหมดอายุวันที่เท่าไร การใช้เทคโนโลยีRFID เพิ่มความสะดวกสบาย รวดเร็ว และทางด้านความปลอดภัย เทคโนโลยี RFID ยังสามารถตรวจจับยาปลอมได้ เพื่อไม่ให้ไปถึงมือผู้บริโภคเพราะจะเกิดอันตราย ส่วนบาร์โค้ดเป็นการอ่านข้อมูลที่บันทึกเพียงราคา รหัสสินค้า ชื่อสินค้าเท่านั้น แต่ไม่ได้อำนวยความสะดวกเทียบเท่ากับ RFID
2. จงยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยี RFID ไปประยุกต์ใช้ในธุรกิจต่างๆ อย่างน้อย3ตัวอย่าง
- 1) บัตรรถไฟฟ้า สามารถอ่านข้อมูลของสถานีเริ่มต้นและสถานีปลายทางเพื่อเก็บค่าบริการได้ถูกต้อง

2)ระบบโรงแรม ใช้เทคโนโลยีนี้ทำกุญแจอัตโนมัติเวลาเข้าและออก ของลูกค้าที่มาใช้มาเข้าพัก หมายเลขห้องพักที่มาใช้บริการ

3) ร้านวีดีโอ- วีซีดี บันทึกชื่อ-รหัสของลูกค้า พร้อมรหัสของหนังที่ได้เช่าไป พร้อมอัตราค่าบริการและกำหนดระยะเวลาการยืม-คืน ลงในบัตรที่ลูกค้าเป็นสมาชิกของร้านนั้น
3. ท่านคิดว่าข้อจำกัดของการนำ RFID ไปใช้ในงานธุรกิจมีอะไรบ้าง จงอธิบาย
- การลงทุนในระบบ RFID ไม่ใช่เรื่องเล็กเหมือนซื้อเครื่องสแกนบาร์โค้ด แม้กระทั่ง Pilot Project เท่าที่ทราบมา ว่ากันว่าต้องมี 6 หลักจึงจะเกิดประโยชน์ เนื่องจากทั้ง Tag และ Reader ในปัจจุบันยังราคาสูงอยู่ แบบที่ดีๆหน่อยก็ราคาแพงเหลือเกิน แบบที่ถูกๆก็ข้อจำกัดเยอะ การติดตั้งระบบค่อนข้างมีราคาแพงอาจไม่คุ้มทุนนะถ้าหากว่าธุรกิจมีขนาดไม่ใหญ่ และ การดูแลระบบอาจเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความชำนาญเป็นพิเศษ ซึ่งอาจจะต้องจ้างผู้ตรวจสอบระบบเพิ่มต่างหากทำให้เป็นการเพิ่มภาระต้นทุนให้กับธุรกิจ